โปรโมชั่น ก็คือการส่งเสริมการขาย ดังนั้นเป้าหมายหลักของการจัดโปรโมชั่นในทุก ๆ ครั้ง ก็คือ ต้องทำแล้วเรา 'ต้องมียอดขายเพิ่มขึ้น' ซึ่งยอดขายที่เพิ่มขึ้น ปกติแล้วจะวัดเทียบจาก
.
- ยอดขายช่วงเดียวกันของปีก่อน
- ยอดขายเฉลี่ย 3-6 เดือนหลัง
- ยอดขายตามประมาณการปกติที่ตั้งไว้
.
หรืออยากจะทำโปรโมชั่นแบบไม่เทียบกับอะไรเลยก็ได้ แต่ต้องตั้งเป้าว่าจะได้ยอดขายเท่าไหร่ แบบนี้ก็ได้เหมือนกัน ซึ่งเราจะใช้แบบไหนขึ้นอยู่กับองค์ประกอบอื่นด้วย เพราะไม่มีอันไหนดีที่สุดหรือ ถูกต้องกว่าอันอื่น
.
แต่ที่สำคัญ ไม่ว่าคุณจะทำแบบไหนก็แล้วแต่ เมื่อทำแล้วก็ต้องมีการวัดผล ตั้งเป้าว่าอยากได้เท่าไหร่ ทำจริงแล้วได้เท่าไหร่ เราได้เรียนรู้อะไรจากการจัดโปรโมชั่นครั้งนั้นบ้าง และมีอะไรที่ปรับปรุงได้อีก
.
ซึ่งหลักการดูว่าโปรโมชั่นนี้ทำแล้วคุ้มไหม ควรทำหรือไม่ มีวิธีการคิดดังนี้
.
ขั้นที่ 1 ยอดขายเป้าหมายจากโปรฯ - ยอดขายปกติถ้าไม่จัดโปรฯ ผลที่ได้เรียกว่า Incremental Sales
.
ขั้นที่ 2 หักต้นทุนสินค้าออกจากยอดขายทั้ง 2 ตัว แล้วเอาค่าที่ได้มาลบกัน ตัวเลขที่ได้เรียกว่า Incremental Gross Profits
.
ขั้นที่ 3 รวมต้นทุนของการจัดโปรฯ ทั้งหมด เช่น ของแจก ค่าทำ Artwork ค่ายิงแอด ค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่เกิดขึ้นเรียกว่า ค่าใช้จ่ายในการจัดโปรฯ หรือ Promotion Costs เวลารวบรวมค่าใช้จ่าย ต้องเก็บให้ครบ คิดค่าใช้จ่ายตามจริง จะได้วัดผลได้อย่างเป๊ะ
.
และถ้าผลลัพธ์จากขั้นที่ 2 มากกว่าขั้นที่ 3 นั่นแปลว่า เราทำโปรโมชั่นแล้วคุ้มสุด ทำแล้วได้ยอดขายและกำไรเพิ่มแล้ว